จิตวิทยาที่ส่งอิทธิพลต่อการเรียนรู้
1. การรับรู้
2. แรงจูงใจและการจูงใจ
3. การเสริมแรง
4. แบบการเรียนรู้
การรับรู้ หมายถึง กระบวนการแปรความหมายต่อสิ่งที่รู้สึกได้จากการใช้อวัยวะรับสัมผัส (Sensory organ) ได้แก่ ตา หู ลิ้น จมูก และร่างกาย และอวัยวะรับสัมผัสภายใน ได้แก่ ประสาทในกล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อของกระดูก
การรับรู้กับการเรียนการสอน
1. ถ้าไม่มีการรับรู้ จะไม่มีการเรียนรู้
2. ยิ่งผู้เรียนใช้ประสาทสัมผัสมากยิ่งเรียนรู้มาก
3. การรับรู้ที่ถูกต้อง เช่น การใช้รูปภาพเพื่อสื่อความหมายต้องทำให้ผู้เรียนเข้าใจสิ่งที่ต้องการจะสื่อได้เหมือนหรือใกล้เคียงกัน
4. ความคิดรวบยอดจากรูปธรรมไปนามธรรม เช่น ความกลม เป็นต้น
แรงจูงใจและการจูงใจ (Motive and motivation)
การจูงใจเป็นกระบวนการที่ควบคุมและรักษาพฤติกรรมให้คงไว้
ตัวอย่างเช่น
A ต้องการสอบให้ได้ที่ 1 (สิ่งเร้า) ----> ขยัน อดทน พากเพียร (พฤติกรรม) ----> พ่อแม่ดีใจ (จุดมุ่งหมาย)
เทคนิคการสร้างแรงจูงใจใฝ่เรียนรู้
แรงจูงใจ (Motive) กับการจูงใจ (Motivation) นั้นแตกต่างกัน แต่มีความเกี่ยวข้องกันอย่างมาก เพราะ การจูงใจ เป็นกระบวนการและเทคนิควิธีการในการสร้างแรงจูงใจให้เกิดขึ้น
Motivation ----> Motive
ประเภทของแรงจูงใจ
1. Intrinsic motive เช่น ความรู้สึกพึงพอใจ ความภาคภูมิใจ เป็นต้น
2. Extrinsic motive เช่น คะแนน ของรางวัล คำชมเชย การยอมรับจากบุคคลอื่น
แรงจูงใจกับการเรียนการสอน
1. สนับสนุนให้ผู้เรียนทำงานและเล่นด้วยกัน
2. ปฏิบัติต่อผู้เรียนด้วยความจริงใจและเคารพในตัวผู้เรียน
3. ใช้สื่อการเรียนการสอนเพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาโดยง่าย และเร้าความสนใจ
4. ไม่ข่มขู่คุกคามผู้เรียน
5. รับฟังความคิดเห็นของผู้เรียนแต่ละคน
การเสริมแรง (Reinforcement)
การเสริมแรงเป็นการให้สิ่งใด ๆ หลังจากเกิดพฤติกรรมที่พึงประสงค์แล้ว เพื่อให้แสดงพฤติกรรมนั้นซ้ำอีก สิ่งต่าง ๆ ที่ให้นั้นเรียกว่า "ตัวเสริมแรง" สามารถแบ่งได้ 2 ประเภท
1. ตัวเสริมแรงทางบวก เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เรียนพึงพอใจและแสดงพฤติกรรมนั้นอีก
2. ตัวเสริมแรงทางลบ เป็นสิ่งที่นำออกไปแล้วจะทำให้แสดงพฤติกรรมที่พึงประสงค์นั้นเพิ่มมากขึ้น
Positive reinforcement
1. ตัวเสริมแรงทางบวกที่เป็นสิ่งของ เช่น อาหาร ขนม ของรางวัล คะแนน ของเล่น เป็นต้น
2. ตัวเสริมแรงทางบวกทางสังคม
3. ตัวเสริมแรงทางบวกที่เป็นกิจกรรม เช่น การเลือกทำสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ต้องการ การเล่มเกม กีฬา การสนทนากับเพื่อน
Negative reinforcement
เป็นสิ่งที่ผู้รับต้องการหลีกเลี่ยง ไม่พึงพอใจ และหาทางออกโดยการแสดงพฤติกรรมอื่นแทน ตัวเสริมแรงทางลบ เช่น คำพูดเยาะเย้ย ประชดประชัน เสียดสี หรือข่มขู่ การวิพากษ์วิจารย์ การดุ การหักคะแนน การให้ยืนหน้าห้องเรียนหรือให้ออกนอกห้องเรียน
หลักการทั่วไปของการเสริมแรง
1. เสริมแรงทันที
2. แสดงพฤติกรรมที่ต้องการก่อนจึงจะได้รับตัวเสริมแรง
3. ระบุพฤติกรรมที่พึงประสงค์และตัวเสริมแรงให้ชัดเจน เช่น ปฏิบัติตัวอย่างไรจึงจะได้รางวัล
4. พฤติกรรมใกล้เคียงกับพฤติกรรมที่พึงประสงค์ไม่ควรเสริมแรง
Learning Styles
แบบการเรียนรู้เป็นลักษณะหรือวิธีการจำเพาะของแต่ละบุคคลที่ใช้ในการเรียนรู้ การคิด การแก้ปัญหา ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการรับรู้ และจดจำข้อมูล ข้อเท็จจริง มโนทัศน์ต่าง ๆ ช่วยให้กระบวนการเรียนรู้ของแต่ละคนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะ ผู้สอนสามารถจัดประสบการณ์และสภาพแวดล้อมให้สอดคล้องกับแบบการเรียนรู้
ปัจจัยที่ทำให้คนมีแบบการเรียนรู้ไม่เหมือนกัน
1. เพศ
2. อายุ
3. ระดับการศึกษา
4. กระบวนการทางสมอง
5. วัฒนธรรม
6. ทักษะการคิด